เพราะกรุงเทพฯ อากาศร้อนแทบจะตลอดปี ดังนั้นไอศกรีมจึงเป็นของโปรดคลายร้อนของคนทุกเพศทุกวัยอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นถ้าอิ่มกับอาหารอร่อยๆ จิบเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟน่านั่งเสร็จแล้ว ต้องลองแวะมาร้านไอศกรีมรสเด็ดเหล่านี้ที่คุณไม่ควรพลาด

Sugar Plump

ร้านไอศกรีมเล็กๆ ที่อยากให้ทุกคนสามารถมากินได้ทุกวัน ตามคอนเซ็ปต์ Everyday Ice Cream ที่ติดอยู่ด้านหนึ่งของทางเข้า คุณอิงค์และคุณแพมเจ้าของร้าน ลงมือออกแบบทุกอย่างเอง ตั้งแต่การตกแต่งร้านด้วยสไตล์คอนเทมโพรารี ไปจนถึงรสชาติไอศกรีม ที่มีความหวานน้อย กินแล้วสนุก และกินได้ทุกวัน แถมราคาก็ตั้งใจเริ่มต้นที่ 59 บาทเท่านั้น

รสชาติไอศกรีมแนะนำก็คือ Sugar Plump ไอศกรีมรสเลมอนพาย มีรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม เพิ่มสัมผัสด้วยบัตเตอร์เค้ก อีกรสหนึ่งคือ Cheat Day ไอศกรีมที่มีความหอมมันและสัมผัสจาก salted caramel ผสมอยู่ด้วย เป็นอีกรสที่หลายคนถูกใจและสั่งกันบ่อย

ที่ตั้ง : ซอยสาทร 7

วัน-เวลา เปิดบริการ : จันทร์ - เสาร์ 10.00 น. - 19.00 น. , อาทิตย์ 11.00 น. - 15.30 น

ถ้วยถังไอติม จุฬา 12

คาเฟ่ไอศกรีม ปากซอยจุฬาฯ 12 ถนนบรรทัดทอง โดดเด่นด้วยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในสไตล์จีน ตามความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้าน และเมื่อลูกค้าเปิดประตูเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ ‘ถังไอศกรีมสเตนเลส’ ที่เอามาตั้งเป็นกิมมิกน่ารักๆ ของร้าน และยังเป็นการบอกด้วยว่า ‘ไอศกรีม’ คือของดีของร้านนี้

เมนูขายดีเป็นไอศกรีมโฮมเมด มีให้เลือก 3 เซ็ต คือ ‘เซ็ตหมั่นโถวทอด’ (89 บาท) หมั่นโถวทอดกรอบนอกนุ่มใน หั่นครึ่งแล้วตักไอศกรีมวางตรงกลาง หน้าตาคล้ายๆ เบอร์เกอร์ รสชาติหวานๆ มันๆ เข้ากันดี เป็นเมนูที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘เช็ตหมั่นโถวนึ่ง’ (79 บาท) เสิร์ฟหมั่นโถวนึ่งอุ่นๆ มาในเข่งไม้และมีกระดาษรองและมีไอศกรีมวางอยู่ข้างๆ และ ‘เซ็ตพุดดิ้งนม’ (79 บาท) เสิร์ฟพุดดิ้งนมนุ่มๆ คู่กับไอศกรีมและท็อปปิ้งตามสั่ง

แต่ละเซ็ตเราสามารถเลือกรสชาติไอศกรีมได้ตามใจชอบ แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือรสเกาลัด และรสถั่วตัด ส่วนรสอื่นๆ ก็จะเน้นความแปลกใหม่ เช่น นมชมพูถั่วแดง น้ำเต้าหู้งาดำ ชานมไต้หวัน และไมโลโรงเรียน วันไหนอากาศร้อนๆ อยากหาที่นั่งชิล กินไอศกรีมดับร้อน เราแนะนำร้านนี้เลย

ที่ตั้ง : ซอย จุฬาลงกรณ์ 12 ถนนบรรทัดทอง

วัน-เวลา เปิดบริการ : ทุกวัน 14.00 - 00.00 น.

The Hidden Milkbar

มิลก์เชกบาร์ในตึกเดียวกับร้านล้างฟิล์มชื่อดังอย่าง Fotoclub ปากซอยเจริญกรุง 32 ที่มาในธีมการตกแต่งแบบออสเตรเลียนไดเนอร์ โทนสีแดง-ชมฟูสุดฟรุ้งฟริ้ง เต็มไปด้วยสิ่งของน่ารักๆ ตั้งแต่ชุดโต๊ะเก้าอี้สีชมพูหลายเฉด ไปจนถึงชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยขวดโหลลูกกวาดหลากสีสันและกล่องนมลายการ์ตูน

แถมมิลก์เชกทุกแก้วที่เสิร์ฟก็ได้รับการตกแต่งให้น่ารักสุดๆ อาทิ Jaffa Milkshake ที่ทำจากดาร์กช็อกโกแลต ส้ม และช็อกโกแลตชิป และตกแต่งด้วยบรรดาขนมอบหมุนเวียน อย่าง ซอฟต์คุกกี้ M&M บราวนี่ และเพรทเซล ที่ดูท่าทางจะเหมาะกับคนที่เป็นสายหวานตัวจริง

ที่ตั้ง : ซอยเจริญกรุง 32

วัน-เวลา เปิดบริการ : 11.00 - 18.00 น.

จิง จิง

ไม่ไกลจากวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส (ที่อาม่าพาไปไหว้ขอพรตอนตรุษจีนนั่นแหละ) มีคาเฟ่ไอศกรีมที่ดีทั้งการตกแต่งภายนอก ประหนึ่งจำลองร้านอาหารคูลๆ จากฮ่องกงมาตั้งไว้ที่เยาวราช และการตกแต่งภายในที่ Instagrammer ต้องห้ามพลาด ดีไปจนถึงไอศกรีมโฮมเมดที่เจ้าของร้านลงมือทำเองทุกขั้นตอน มีรสเด่นๆ อย่าง เชอร์เบทมะนาวโซดา สตรอว์เบอร์รีเชอร์เบท และบลูเบอร์รี่โยเกิร์ต (ลูกละ 50 บาท) แต่รสเด็ดที่เราว่าต้องโดน คือพวกไอศกรีมผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ลูกละ 80 บาท) ไม่ว่าจะเป็น รสจินโทนิก รสคาลัวร์ผสมพีนัตบัตเตอร์ และรสรัมเรซิ่น

นอกจากไอศกรีมสารพัดรส จิงจิง ยังมีกาแฟผสมแอลฯ ที่น่าลองด้วยนะ เช่น เอสเปรสโซโทนิก (80 บาท) และ เอสเพรสโซเหล้าพิสตาชิโอ (120 บาท) แต่ถ้ากลัวเมา ก็สั่งสแน็คกรุบกริบในร้าน พวกวาฟเฟิลหรือแพนเค้กกินไปด้วยกันได้

ที่ตั้ง : 154 ซอยเจริญกรุง 14

วัน-เวลา เปิดบริการ : 09.30 - 17.30 น.

IceDEA

ไม่ว่าฤดูไหน IceDEA ก็สามารถทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร่ำร้องอยากกินไอศกรีมได้ เพราะที่นี่คือร้านไอศกรีมที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องของไอเดียที่เดาทางไม่ถูกเลยสักครั้งว่าในแต่ละซีซั่น คุณพริมา หวั่งหลี เจ้าของและผู้ออกแบบเมนูจะทำไอศกรีมรสชาติและหน้าตาอย่างไรออกมาสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนกิน เช่น ไอศกรีมทุเรียนหมอนทอง ที่ทำออกมาเป็นทุเรียนพูเล็กๆ ติดเปลือกที่ได้กลิ่นรสเต็มๆ ซึ่งนั่นทำให้ไอศกรีมทุเรียนไปเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องชิมเมื่อมาเมืองไทย

ที่ตั้ง : ชั้น 4 Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

วัน-เวลา เปิดบริการ : วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 11:00 - 7:00 น.

Farm to Table, Organic Cafe

ร้านไอศกรีมออร์แกนิกที่เข้ากับอากาศร้อนของเมืองไทยอย่างพอเหมาะพอเจาะ มีไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมดและเครื่องดื่มอร่อยๆ ที่ทำจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก เช่น นมสดและผักผลไม้ตามฤดูกาล

ที่ตั้ง : ปากคลองตลาด ถนนอัษฎางค์

วัน-เวลา เปิดบริการ : 09.00 - 19.00 น.

Rintaro

คลายร้อนด้วยไอศครีมซอร์เบต์ผลไม้ไทยของร้านไอศครีมรินทาโร่ โดยที่ร้านมีไอศครีมให้เลือกทั้งหมด 18 รสชาติที่ทำสดใหม่ทุกวัน หวานหอมด้วยผลไม้สดคัดเกรดและน้ำผึ้งแท้โดยปราศจากการแต่งกลิ่นและเจือสีเพิ่มเติม

รสชาติน่าลองช่วงนี้ คือ ไอศกรีมรสมะเขือเทศบิจิน ซึ่งใช้มะเขือเทศสายพันธุ์บิจินญี่ปุ่นที่ปลูกในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าแรกที่เลือกใช้มะเขือเทศมะเขือเทศเกรดพรีเมี่ยม เพราะรสชาติมะเขือเทศมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สีแดงสด กลิ่นหอม ไม่เหม็นเขียว รสชาติหวานมากๆ และปลูกในโรงเรือน

ที่ตั้ง : W District ถนนสุขุมวิท

วัน-เวลา เปิดบริการ : 12.00 - 22.00 น.