ร้อนจัด แถมยังเวิร์ก เรียน และพักผ่อนฟรอมโฮมกันหนักขนาดนี้ หลายบ้านติดนิสัยเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนจนสงสารแอร์ แถมยังเปลืองค่าไฟหนักมากด้วย! ชวนมาหาตัวช่วยดูแลเครื่องปรับอากาศให้อยู่เย็นไปนานๆ ด้วย ‘พัดลมหมุนเวียนอากาศ’ หลากยี่ห้อ ที่ทำหน้าที่หมุนเวียนอากาศและอุณหภูมิในห้องให้พอเหมาะพอดี เสริมแรงให้แอร์เย็นไวและเย็นนาน มนุษย์ติดบ้านจึงรู้สึกสดชื่นได้ทั้งวัน แถมประหยัดไฟ และไม่ทำให้แอร์ต้องเหนื่อยเพียงลำพังด้วย

วิธี #เซฟแอร์หน้าร้อน แบบเบสิก

วิธี #เซฟแอร์หน้าร้อน ให้ไม่กินไฟมีหลากหลายอย่างที่รู้ ตั้งแต่การเปิดในอุณหภูมิที่พอเหมาะ หมั่นล้างแอร์บ่อยๆ ไม่ใช้อุปกรณ์ทำความร้อนในห้องเดียวกับที่เปิดแอร์ และตั้งเวลาปิดให้เร็วขึ้นวันละชั่วโมง ซึ่งเราขออธิบายไปทีละเรื่อง

เริ่มจากการเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ หลายคนมีเลข 25 องศาเซลเซียสอยู่ในหัวว่าเบอร์นี้ล่ะช่วยประหยัดไฟได้ดีที่สุด แต่ที่มีการแนะนำตัวเลขนี้ไม่ได้ด้วยเหตุเพราะประหยัดไฟได้มากกว่า แต่เป็นเพราะ 25 องศาเซลเซียสคืออุณหภูมิเฉลี่ยที่เหมาะกับอากาศบ้านเราและยังให้ความรู้สึกเย็นสบาย แน่นอนว่าการปรับแอร์ไปที่อุณหภูมิสูงกว่านี้อย่าง 26 องศาเซลเซียสขึ้นไปทำให้ประหยัดไฟมากกว่า แต่ก็อาจทำให้รู้สึกร้อนด้วย จึงไม่ได้มีการแนะนำ

อีกเรื่องที่พอจะรับรู้อยู่บ้างแล้วอย่างการ หมั่นล้างแอร์บ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี โดยให้แบ่งเป็นหกเดือนครั้ง คือล้างเตรียมรับฤดูร้อนหนึ่งครั้งในช่วงต้นปี และหลังจากนั้นอีกครั้งในช่วงกลางปี เพื่อลดการสะสมของฝุ่นในเครื่องปรับอากาศ ทำให้อากาศสะอาดและทำความเย็นได้เต็มที่ ต่อมาคือการ ไม่ใช้อุปกรณ์ทำความร้อนในห้องแอร์ เพราะจะส่งผลให้แอร์ทำงานหนัก และสุดท้ายคือการ ตั้งเวลาปิดแอร์ให้เร็วขึ้นแค่วันละชั่วโมง สามารถประหยัดค่าไฟได้ 2-5 บาทต่อชั่วโมงเลยทีเดียว (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วย)

นอกจากที่เล่าไปทั้งหมด ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าช่วยประหยัดไฟได้จริงมั้ย และช่วยได้อย่างไร นั่นคือการเปิดพัดลมช่วยแอร์

ให้พัดลมช่วยเซฟแอร์อีกแรง

การเปิดพัดลมช่วยแอร์ได้จริง โดยมีการแนะนำจากการไฟฟ้านครหลวง ส่วนจะประหยัดไฟมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับระบบของเครื่องปรับอากาศที่บ้านและอุณหภูมิที่เลือกด้วย เพราะการเปิดแอร์เย็นๆ (อุณหภูมิต่ำ) และเปิดพัดลมจ่อไว้เฉยๆ อาจช่วยเรื่องความเย็น แต่ไม่ช่วยประหยัดไฟเลยสักนิด

หลักการทำงานของพัดลมที่เปิดช่วยแบ่งเบาแอร์คือการกระจายความเย็น โดยพัดลมจะไปเพิ่มความเร็วลมและการเคลื่อนที่ของอากาศภายในห้อง ทำให้ร่างกายเราระบายความร้อนได้ดีจึงรู้สึกเย็นสบาย ส่วนวิธีใช้พัดลมช่วยแอร์แบบเซฟค่าไฟ แนะนำให้ เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส พร้อมกันนั้นให้เปิดพัดลมช่วยอีกแรง เพื่อให้ความรู้สึกความเย็นสบายเทียบเท่าอุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส โดยที่แอร์ไม่ต้องทำงานเต็มกำลัง แบบนี้ต่างหากถึงประหยัดไฟได้มากกว่า และหากต้องการประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก ชวนมองหาพัดลมที่ถูกที่ควรอย่าง ‘พัดลมหมุนเวียนอากาศ’

รู้จัก ‘พัดลมหมุนเวียนอากาศ’

พัดลมทรงกลม รูปร่างกะทัดรัด ดีไซน์เรียบง่ายแบบไม่ขัดขวางความสวยงามของห้องที่เราคงพอได้เห็นผ่านตามาบ้างในชื่อเรียก ‘พัดลมหมุนเวียนอากาศ’ จากหลากหลายแบรนด์นั้นไม่ใช่แค่พัดลมรุ่นใหม่ทั่วไป แต่เป็นพัดลมที่มีระบบการทำงานแบบใหม่ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนอากาศในพื้นที่จำกัด ด้วยเป็นพัดลมที่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก การใช้งานสามารถส่ายหัวได้รอบทิศทางทั้งซ้ายขวาขึ้นลง ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล และมีเทคโนโลยีของมอเตอร์และใบพัดที่ให้พลังลมแรงกว่าพัดลมทั่วไป แถมมีทิศทางลมเป็นเส้นตรงจึงส่งลมได้ไกลแบบไม่ส่งเสียงรบกวน*

นอกจากให้ความเย็นแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยหมุนเวียนอากาศ เพียงตั้งในตำแหน่งต่างๆ ที่แนะนำให้เหมาะสมกับการใช้งาน ก็จะช่วยทำให้อากาศในห้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน ลดกลิ่นอับภายในห้องได้ด้วย ทำให้หลายบ้านเริ่มหันมาเลือกใช้พัดลมหมุนเวียนอากาศมาเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระของแอร์ที่บ้านให้ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และได้ลดค่าไฟเป็นของแถม

หมายเหตุ*พูดถึงภาพรวมของพัดลมหมุนเวียนอากาศทั่วไป ส่วนรายละเอียดการใช้งานขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ รวมถึงขนาดพื้นที่และตำแหน่งที่ตั้งพัดลมด้วย

[Conscious Tips by ili U]

ตำแหน่งแห่งที่ของพัดลมหมุนเวียนอากาศ

ซื้อพัดลมหมุนเวียนอากาศมาแล้ว แต่ตั้งตรงไหนดีล่ะ ถ้าเจอคำถามนี้ก็คงต้องตอบว่าไม่มีที่ตั้งไหนที่ดีที่สุด เพราะพัดลมหมุนเวียนอากาศสามารถตั้งตำแหน่งไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการฟังก์ชั่นอะไรจากมัน

ใช้ช่วยให้แอร์เย็นยิ่งขึ้น ตั้งพัดลมที่มุมห้อง ฝั่งเดียวกับผนังที่ติดตั้งแอร์ ทำมุม 45 องศา และหันเข้ากลางห้อง เพื่อให้เย็นสดชื่น

ใช้หมุนเวียนอากาศ ตั้งพัดลมในตำแหน่งที่มีระยะห่างกว้างที่สุดของห้อง ช่วยไล่ความชื้นในอากาศ ทำให้อากาศสดชื่น ลดกลิ่นอับภายในห้อง

ใช้ให้หลับสบาย ตั้งพัดลมที่บริเวณปลายเตียง ปรับตำแหน่งหน้าพัดลมให้ขนานกับพื้นห้อง อากาศจะไหลเวียนไปตามใต้เตียงหรือพื้นที่ว่างและวนไปตามผนัง การหมุนเวียนของอากาศที่ดีจะทำให้ได้รับความเย็นโดยไม่ต้องให้ลมปะทะกับร่างกายโดยตรง

ใช้ไล่ลมร้อน รับลมเย็น หากอากาศภายนอกเย็นกว่าภายใน สามารถหันหน้าพัดลมออกไปนอกห้อง (ทางประตูหรือหน้าต่าง) ทำให้อากาศร้อนภายในห้องถูกปล่อยออกไป และรับอากาศจากนอกห้องเข้ามาแทน