กลิ่นฝนปะปนอยู่ในอากาศ เป็นช่วงเวลาที่ต่างคนต่างออกจากบ้านน้อยลง จนผู้คนเริ่มหันหน้าเข้าครัวปรุงอาหารกินเอง (สำหรับบางคนอาจเป็นครั้งแรก) เมื่อได้ใกล้ชิดกับวัตถุดิบมากขึ้นอีกหน่อย หลายคนเริ่มสงสัยว่าทำไมผักในจานช่วงหน้าฝนถึงได้อร่อยนัก ทั้งที่เมื่อหลายเดือนก่อน รสชาติยังไม่น่าประทับใจขนาดนี้…

ค้นหาจนได้คำตอบว่า พืชผักแต่ละอย่างต่างก็มีอากาศและความชื้นที่ถูกใจกันคนละแบบ ก่อนวิถีชีวิตยุคปัจจุบันจะพาเราให้ห่างไกลจากความเข้าใจที่ว่า ‘เหล่าพืชผักย่อมมีฤดูกาลของตัวเอง’ เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักและหยิบจับ ‘ผักหน้าฝน’ มาประลองกำลังกันในสนามครัวดู

ทำความรู้จัก ‘ผักตามฤดูกาล’ ที่มาพร้อมหน้าฝน

ฤดูฝนเกิดจากการที่ลมมรสุมพัดพาเอาความชื้นเข้าปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้น ในช่วงเวลาหนึ่ง (ซึ่งมรสุม หรือ Monsoon ในภาษาอังกฤษมีรากศัพท์มาจากคำในภาษาอารบิกที่หมายถึง ฤดูกาล) โดยฤดูฝนจะแบ่งเป็นช่วงต้นฝนและปลายฝน เริ่มในราวปลายเดือนพฤษภาคมและไปจบลงกลางเดือนตุลาคม เมื่อมากฝน ปริมาณน้ำและความชื้นก็มากตาม เหล่าผักที่รักน้ำและโปรดปรานความชุ่มฉ่ำจึงเติบโตได้ดีเป็นพิเศษในแวดล้อมของฤดูกาลนี้ ส่งผลไปถึงเรื่องรสชาติ

การเลือกกินผักในฤดูกาลเช่นฤดูฝนนี้ ไม่เพียงแค่ให้รสชาติที่ดีกว่า แต่ยังมีความกรุบกรอบแบบปลอดสาร และหน้าตาที่ดี (ตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น) มาถึงตรงนี้คนกินก็ปลอดภัยจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดโรคได้

ตัวอย่างผักฤดูฝน: กุยช่ายดอกและใบ ชะอม ตำลึง ถั่วฝักยาว บัวบก กระเจี้ยบ ฟักเขียว มะเขือพวง มะนาว คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง มะระ

ชวนกินผักพื้นถิ่น กินได้กินดี ตามฤดูกาลด้วย

ผักพื้นถิ่นหรือผักพื้นบ้าน แค่ชื่อเสียงเรียงนามก็พอจะแนะนำตัวได้แล้วว่าฉันไม่ใช่ผักเศรษฐกิจ เพราะฉันขึ้นเองตามธรรมชาติ และผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมฉันนัก เช่นนั้นแล้วผักพื้นถิ่นถึงน่าสนใจ ยิ่งถ้าเลือกกินตรงตามฤดูกาลยิ่งดีใหญ่ ในแง่ที่ว่าเกษตรกรไม่ต้องพยายามปลูกผักนอกฤดูตามความต้องการของตลาด ไม่จำเป็นต้องปลูกโดยใช้สารเคมีเข้าช่วย เพราะไม่จำเป็นต้องปลูกผักประเภทเดียวซ้ำๆ ที่รังแต่จะทำให้เกิดตัวกำเนิดโรค (Pathogens) และศัตรูพืช (Pest) การปลูกผักแบบหมุนเวียนตามฤดูกาลจะทำให้สมดุลของอาหารในดินไม่ถูกดึงออกไปด้วย ผักเหล่านี้จึงปลอดเคมีและดีต่อคนกินอย่างจริงแท้ และทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราควรกินผักตามฤดูกาล

ตัวอย่างผักพื้นถิ่นหน้าฝน: ผักปลัง ดอกขจร ตำลึง ผักกูด โสน ขี้เหล็ก สะตอ ผักหวานบ้าน น้ำเต้า หน่อไม้

ปรุงผักฤดูฝนอย่างไรให้ได้รสชาติชุ่มฉ่ำ

ต้ม...ตำลึง โจทย์คือฤดูฝนที่ก่อเกิดอาการชวนง่วงและง่ายที่จะไม่สบายแบบนี้ ขอแนะนำต้มจืดตำลึงหมูสับ ด้วยความเป็นอาหารเรียบง่าย แต่ชุบชูชีวิตจิตใจเอามากๆ ชวนซดน้ำให้คล่องคอ เคี้ยวผักให้สดชื่น ลิ้มรสหมูสับเท็กเจอร์กรุบ และตัวเอกอย่างตำลึง นอกจากจะหาซื้อง่าย สรรพคุณยังมากล้น ช่วยบำรุงสายตาและย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย

ผัด...สามฉุน ไปต่อกันที่ผัดสามฉุน หรือผัดสามเหม็นที่อยากจะตีมือคนคิดชื่อ ด้วยคำว่าเหม็นอาจกีดกันคนบางส่วนออกไป แต่ที่จริงจานนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นฉุนอย่างชื่อเรียก สามผักที่ว่าประกอบด้วย ชะอม สะตอ และกระเทียมโทน ถึงตรงนี้ บางคนอาจเริ่มได้กลิ่นไม่ค่อยหอม แต่ช้าก่อน เพราะเมื่อนำไปผัดกับวุ้นเส้นและไข่ ใส่หมูสับหรือกุ้งตามความสะดวก ทั้งสามผักจะเสริมรสและตัดเลี่ยนกันเองได้ดีชะมัด และคุณค่าทางโภชนาการก็สูงทั้งสาม จนอยากให้ลอง

แกง...ผักหวานบ้านปลาแห้ง วัตถุดิบหลักมีเพียงผักหวานบ้าน มะเขือเทศ และ ปลาแห้ง ปรุงด้วยเครื่องแกงที่โขลกเองได้ไม่ยาก อย่างหอมแดง กระเทียม พริก กะปิ เกลือ ตำตำจนได้ที่แล้วนำไปต้มต้ม ปรุงน้อยๆ ให้ได้รสเปรี้ยวหวานปะแล่ม เทลงจาน ซดแล้วรับรองถึงความโล่งที่จะได้รับ เป็นการคืนความสดชื่นได้ในยามท้อแท้

ทอด...เทมปุระผัก โปรดวางมายาคติที่ว่าเนื้อสัตว์เท่านั้นที่เหมาะจะนำไปทอดลงเสียก่อน เพราะพืชผักตามฤดูกาลก็นำไปทอดได้อร่อยไม่แพ้กัน อยากชวนมาทำเทมปุระดอกขจร เริ่มจากนำขจรไปล้างสะอาด ชุบแป้งสำหรับทำเทมปุระ หรือแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งสาลี ชุบไข่ ตั้งเตา แล้วทอดให้เหลืองกรอบ จะกินเล่นกับดิปปิ้งซอส หรือจิ้มน้ำพริกที่มีติดตู้เย็น ก็เพลิดเพลินทั้งนั้น แถมให้พลังงานและคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย

เคล็ดลับปรุงเมนูจากผัก ให้ยังดีต่อสุขภาพ

1. เด็ดเก็บให้อยู่ได้นาน เมื่อได้ผักมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต หากยังไม่ได้ใช้ก็ไม่ควรนำไปล้าง อาจตัดแต่งให้เรียบร้อยเพื่อประหยัดพื้นที่ในตู้เย็น แล้วห่อให้มิดชิดด้วยกระดาษ เก็บใส่ถุงซิปล็อค (ที่นำมาล้างก่อนใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้) เป็นการเก็บผักที่ช่วยคงความสดและคุณค่าทางอาหารได้เป็นอย่างดี

แนะนำ: กระดาษอเนกประสงค์ พินน์ เนเชอรัล ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล (ที่ยังไม่ผ่านการใช้) ด้วยกระบวนผ่านความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ปราศจากสารฟอกขาว สะอาด ปลอดภัย เป็นมิตรต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

2. เช็ดล้างให้ปลอดสารพิษ เมื่อถึงเวลาใช้ ให้นำผักมาล้างน้ำสะอาดแบบเปิดน้ำไหลผ่าน หรือจะเติมเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยแช่ทิ้งไว้ก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้ที่สกัดจากธรรมชาติ ช่วยลดสิ่งสกปรกหรือสารปนเปื้อนที่อาจมากับผัก ทำให้ผักสดกรอบมากขึ้นด้วย หรือผักบางชนิดก็สามารถนำมาเช็ดๆ ขัดๆ โดยไม่ต้องล้างได้เหมือนกัน

แนะนำ: LAMOON ผลิตภัณฑ์ล้างผักและผลไม้สกัดจากธรรมชาติ 100%

3. สะเด็ดน้ำให้แห้ง ขั้นตอนการทำให้แห้งก็สำคัญ ตะกร้าล้างผักที่ดีควรมีส่วนประกอบที่เป็นกระชอนและกะละมัง คือล้างแล้วต้องมีรูระบายให้สะเด็ดได้สะดวก จะล้างผักผลไม้หรือกรองเส้นพาสต้าก็ลงตัว ด้ามจับต้องถนัดมือและอุปกรณ์ควรมีน้ำหนักเบา (ที่จริงวัสดุจากพลาสติกไม่ใช่ตัวร้ายไปเสียหมด การทิ้งขว้างไม่นำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลต่างหากที่เป็นปัญหาใหญ่) หากมองหาตะกร้าล้างผักที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพดี มีความทนทาน และพร้อมจะอยู่กับเราไปนานๆ ก็ดีนะ

แนะนำ: CENTRAL HOME ตะกร้าล้างผัก 3 ชั้น เอ็กคลูซีฟแบรนด์จาก Central ที่รวมของใช้ในบ้านคุณภาพสูง ราคาดี มาไว้ให้แล้ว